ย้อนรอย 5 นักโทษฆ่าข่มขืน ที่ถูก ประหาร ในไทย
1.สมศักดิ์ พรนารายณ์ คดีข่มขืนกระทำชำเรา และฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายหรือเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน
สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.ค. พ.ศ.2538 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เชียงคาน จังหวัดเลย ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกข่มขืนและฆ่า ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ที่ 6 ตำบลบุฮม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าบนที่นอนมุมห้องด้านหลังบ้าน มีร่างของนางสาวจารุณี(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ โดยถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม สภาพศพที่พบสวมใส่เสื้อยืดคอกลมสีฟ้า ส่วนกางเกงผ้ายืดสีน้ำเงินขาสั้นและกางเกงชั้นในสีขาวถูกรูดมากองไว้ที่ข้อเท้า ที่บริเวณอวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืนจนฉีกขาด มีเลือดและปัสสาวะไหลเปื้อนเจิ่งนองเต็มที่นอน พบขนเพชรและคราบอสุจิที่ร่างของผู้เสียชีวิต ที่ลำคอมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกรัดอย่างแรง ที่ปากมีผ้าขนหนูอุดไว้แน่น บนที่นอนพบสายไฟฟ้าตกอยู่หนึ่งเส้น คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้รัดคอผู้เสียชีวิต
น้องสาวของน.ส.จารุณี ผู้พบศพคนแรกให้การว่า เวลาประมาณ 05.00 น. แม่ได้มาปลุกให้ตนลุกขึ้นไปหุงข้าว ในตอนนั้นเห็นนายสมศักดิ์ พรนารายณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับอาของตน เดินถือกระเป๋าเสื้อผ้ารีบร้อนออกไปจากบ้าน โดยไม่บอกกล่าวพูดจาแต่อย่างใด เมื่อไปเปิดมุ้งเพื่อจะปลุกพี่สาวของตน ก็พบว่าได้ถูกฆ่าตายไปแล้ว จึงส่งเสียงร้องเรียกให้คนในบ้านได้รับรู้
ส่วนแม่ของน.ส.จารุณีให้การว่า ปกติแล้วน.ส.จารุณีและพี่สาว จะทำงานก่อสร้างอยู่ที่กรุงเทพฯ ช่วงนี้ได้ลางานกลับมาเยี่ยมบ้าน และจะเดินทางกลับไปทำงานในเย็นวันนี้(4 ก.ค. 38) แต่ก็มาถูกฆ่าตายไปเสียก่อน เวลาเกิดเหตุน่าจะเป็นตอนกลางคืนวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งเวลานั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงไม่มีใครได้ยินเสียงอะไร ส่วนนายสมศักดิ์ที่หายตัวไปนั้น เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอาของลูกสาวเป็นผู้พามาขออาศัยอยู่ด้วยชั่วคราว ด้วยความสงสารจึงอนุญาตให้พักอยู่ด้วย ดูจากลักษณะภายนอกแล้วเหมือนกับคนซื่อๆ ไม่น่าที่จะเป็นคนโหดร้ายไปได้ แต่แล้วกลับมาก่อคดีขึ้นในบ้านของตน และผู้เสียชีวิตก็เป็นลูกสาวของตนอีกด้วย ตนอุตสาห์ให้ที่อยู่อาศัย ไม่น่าที่จะมาทำกันอย่างนี้เลย
เมื่อทราบข้อมูลผู้ต้องสงสัยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตามหาตัวนายสมศักดิ์ เพื่อนำตัวมาสอบสวนหาตัวคนร้ายที่แท้จริงให้ได้อย่างเร่งด่วน
วันที่ 5 ก.ค. พ.ศ.2538 เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เชียงคาน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบผู้ต้องสงสัยน่าจะใช่นายสมศักดิ์ นั่งรอรถโดยสารอยู่ที่ศาลาที่พักผู้โดยสาร บ้านนาจานน้อย หมู่ที่ 2 ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ เมื่อนายสมศักดิ์เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาหาตน ได้ลุกขึ้นพยายามวิ่งหนีแต่ไปไม่พ้นถูกจับกุมได้ และนำตัวมาสอบสวนที่สภ.อ.เชียงคานทันที
ผลการสอบสวนเบื้องต้น นายสมศักดิ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างสาเหตุว่าเกิดมีอารมณ์ทางเพศจนหน้ามืดทนไม่ไหว เมื่อเห็นทุกคนในบ้านหลับสนิทหมดแล้ว ประกอกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก น่าจะกลบเสียงอื่นได้ ตนจึงย่องเข้าไปหาน.ส.จารุณีที่มุ้ง แต่ว่าฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย พยายามจะร้องเรียกให้คนช่วยและต่อสู้ดิ้นรน ตนจึงพลั้งมือฆ่าน.ส.จารุณีตาย และยังสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า ตนเป็นผู้ข่มขืนและพยายามฆ่าโชเฟอร์สามล้อเครื่องรับจ้าง ที่ป่าด้านหลังโรงเรียนบ้านนาซำ หมู่ที่ 7 ตำบลนาอาน อำเภอเมือง จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมานี่เองอีกด้วย
หลังจากได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนการสอบสวนมอบให้อัยการ เพื่อส่งฟ้องนายสมศักดิ์ต่อศาลจังหวัดเลย ผลการพิจารณาของศาลชั้นต้น ได้ตัดสินให้ประหารชีวิตนายสมศักดิ์ โดยไม่มีการลดหย่อนโทษให้แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และจำนนต่อพยานหลักฐาน จึงไม่มีเหตุอันควรปราณีที่จะลดโทษให้
หลังจากถูกศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิตแล้ว ได้ถูกส่งตัวมาคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง และเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อมาเป็น “ข.ช.สมศักดิ์” (ข.ช.ย่อมาจากขังชาย หมายถึงนักโทษที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา) และได้ใช้สิทธิ์ในการขอยื่นอุทธรณ์ ตามระยะเวลาที่กฎหมายได้กำหนดให้
วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2539 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.บางพลัดได้รับแจ้งเหตุพบศพเด็กนักเรียนหญิง ภายในห้องน้ำของโรงเรียนวัดรวก ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ จึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและทราบว่าเด็กหญิงผู้เสียชีวิตชื่อ ด.ญ.สุพรรษา เชิดชู หรือน้องอ้อม อายุ 5 ปี เป็นนักเรียนของโรงเรียนวัดรวก ชั้นอนุบาล 1 สภาพศพนั่งพิงผนังห้องน้ำด้านนอก ช่วงล่างเปลือยเปล่ามีร่องรอยถูกข่มขืนที่บริเวณอวัยวะเพศ รวมทั้งมีคราบอสุจิและขนเพชรติดอยู่ ที่ลำคอมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกบีบอย่างแรง ที่ไหล่ขวาพบขนรักแร้ติดอยู่ 1 เส้น บริเวณใบหน้าและเสื้อนักเรียนที่สวมใส่อยู่เปียกชื้นไปด้วยน้ำ
ภายในห้องน้ำห้องที่ 3 พบกระโปรงและกางเกงในของเด็กถูกถอดทิ้งไว้ข้างโถส้วม รองเท้านักเรียนถูกถอดไว้ปากประตูห้องน้ำ โดยนักเรียนชายชั้นป.4 จำนวน 2 คนเป็นผู้พบศพ และได้รีบไปแจ้งให้อาจารย์ทราบ เมื่ออาจารย์มาถึงเห็นเด็กนอนนิ่งอยู่ภายในห้องน้ำ เข้าใจว่าเด็กยังไม่สิ้นใจ จึงรีบอุ้มออกมาเพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่เมื่อทราบในภายหลังว่าเด็กได้สิ้นใจไปแล้ว จึงได้วางเด็กไว้ข้างผนังห้องน้ำพร้อมกับรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
จากการสอบสวนหาพยานที่เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีนักเรียนชายหลายคนเห็นผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี ท่าทางมีพิรุธ แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสลับน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ขายาวเดินป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุ และมีนักเรียนชายชั้นป.4ยืนล้างหน้าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ เห็นชายแต่งตัวดังกล่าวโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำที่เกิดเหตุ
เมื่อนำตัวนายพันธุ์มาถึงสน.บางพลัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำการสอบสวนในทันทีพร้อมกับทำการเก็บตัวอย่างขนเพชรและเชื้ออสุจิส่งไปพิสูจน์ทางการแพทย์ เพื่อเปรียบเทียบกับที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุและที่ตัวน้องอ้อม ผลการสอบสวนในเบื้องต้นนายพันธุ์ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยอ้างว่า วันเกิดเหตุในช่วงเช้าตนได้เข้าไปกราบไหว้พระภายในวัดรวกพร้อมกับขอข้าววัดกิน จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น.เศษ จึงเดินออกมาจากวัดและได้พบคนรู้จักพร้อมกับได้แวะพูดคุยด้วยอยู่พักหนึ่ง(หมายถึงเจ้าของร้านค้า) แล้วเดินต่อไปหาเพื่อนที่ท้องสนามหลวงแต่ไม่พบ จึงเดินต่อไปที่วัดสังเวชและได้ไปอาศัยหลับนอนภายในวัด เวลาประมาณ 20.00 น. จึงได้ตื่นขึ้นมาแล้วเดินออกมาจากวัด เห็นมีรถกระบะจอดอยู่ที่หน้าวัดสังเวชคันหนึ่ง จึงขึ้นไปนอนต่อบนกระบะของรถ
เวลาประมาณ 01.00 น.เศษของวันที่ 6 กรกฎาคม 2539 เจ้าของรถได้มาไล่ตนให้ลงจากรถ จึงเดินต่อเพื่อที่จะไปยังหลังวัดตรีทศเทพ แต่มาถูกตำรวจนอกเครื่องแบบจับกุมในระหว่างทางเสียก่อนโดยถูกแจ้งข้อหาซ่องโจร ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. ตำรวจสน.ชนะสงครามได้มาถามชื่อตนอีกครั้งและบอกว่าตนน่าจะใช่คนร้ายในคดีข่มขืนและฆ่าเด็กที่โรงเรียนวัดรวกตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ หลังจากนั้นจึงได้มีการนำเด็กมาชี้ตัว ซึ่งเด็กเหล่านั้นตนไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จึงขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
หลังจากที่นายพันธุ์ได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาในการสอบสวนครั้งแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้พยานทำการชี้ตัวคนร้ายอีกครั้งต่อหน้านักข่าวและช่างภาพจำนวนมาก โดยให้ยืนปะปนกับคนอื่นอีก 6 คน พยานที่เป็นนักเรียนชายก็สามารถชี้ตัวได้อย่างถูกต้องอีกเหมือนเดิม จึงทำการสอบสวนเพิ่มเติมแต่นายพันธุ์ก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธเช่นเดิม
เช้าวันรุ่งขึ้น (8 กรกฎาคม 2539) นายพันธุ์ได้ขอให้การใหม่ ซึ่งในครั้งนี้นายพันธุ์ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่ารู้สึกสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไป พร้อมกับได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดและสาเหตุในการทำครั้งนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการสอบสวนทราบ
เดิมทีนั้นพื้นเพเดิมนายพันธุ์เป็นคนอำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ต่อมาได้ย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่เกิดเหตุ ในช่วงวัยรุ่นได้ถูกจับกุมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2527 ขณะนั้นอายุได้ 19 ปี ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่นั้น ยามว่างนายพันธุ์ชอบที่จะหยิบหนังสือดาราภาพยนต์มาดูเล่น ในช่วงนั้นมีนางเอกสาวที่กำลังโด่งดังเป็นอย่างมากชื่อ “สุพรรษา” ซึ่งทุกครั้งที่นายพันธุ์หยิบหนังสือดาราขึ้นมาดูก็จะเฝ้ามองแต่รูปของนางเอกสาวผู้นี้ ครั้งใดที่เกิดมีอารมย์ทางเพศขึ้นมา เวลาสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองก็จะนึกถึงแต่นางเอกสาวผู้นี้มาตลอด
ในวันที่เกิดเหตุร้ายภายในโรงเรียนวัดรวก นายพันธุ์ให้การว่าหลังจากได้เข้าไปกราบไหว้พระและขออาศัยข้าววัดกินจนอิ่มดีแล้ว ได้เดินเข้าไปภายในโรงเรียนวัดรวกเพื่อไปปัสสาวะ ซึ่งในตอนแรกนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะก่อเหตุร้ายใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ในระหว่างทางที่เดินไปห้องน้ำอยู่นั้น เห็นน้องอ้อมเดินมาจะไปทางห้องน้ำเช่นกัน ซึ่งนายพันธุ์รู้สึกว่าน้องอ้อมเป็นเด็กที่น่ารักดี เมื่อได้เหลือบมองไปเห็นป้ายชื่อที่ปักหน้าอกของน้อมอ้อมเขียนว่า “สุพรรษา” ทำให้นายพันธุ์เกิดมีอารมย์ทางเพศขึ้นมาทันที จึงตามไปและเดินเตร่รอบริเวณหน้าห้องน้ำ
เมื่อเห็นจังหวะปลอดคนจึงได้เข้าไปแอบซุ่มรออยู่ที่บริเวณทางเข้าห้องน้ำ เมื่อน้องอ้อมเดินออกมาจากห้องน้ำ นายพันธุ์ก็ตรงเข้าไปใช้มือขวาปิดปากและใช้มือซ้ายอุ้มน้องอ้อมเข้าไปภายในห้องน้ำที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องที่ 3
loading...
เมื่อเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็จับให้น้องอ้อมนอนหงายลงกับพื้น แล้วใช้มือขวาเลื่อนไปกดไว้ที่ลำคอเพื่อไม่ให้มีเสียงร้องออกมาได้ โดยใช้ตัวคร่อมน้องอ้อมไว้ เสร็จแล้วใช้มือซ้ายดึงกระโปรงและกางเกงในของน้องอ้อมออกวางไว้ภายในห้องน้ำแล้วจึงได้ถอดรองเท้าของน้องอ้อมออก จากนั้นได้ใช้มือซ้ายปลดซิปกางเกงยีนส์และรูดกางเกงในของตัวเองลงไว้เหนือเข่า แล้วทำการข่มขืนน้องอ้อมในทันที ซึ่งเด็กก็พยายามดิ้นรนอยู่ตลอด จนกระทั่งนายพันธุ์ได้สำเร็จความใคร่ ในเวลานั้นน้องอ้อมเริ่มดิ้นน้อยลง
เมื่อนายพันธุ์ปล่อยมือขวาออกจากลำคอของน้องอ้อมก็ไม่มีเสียงร้องออกมาแล้ว แต่ว่ามือและเท้าของน้อมอ้อมยังขยับสั่นไหวอยู่บ้างเล็กน้อย นายพันธุ์กลัวว่าน้องอ้อมจะฟื้นและร้องขึ้นมา จึงใช้มือวักน้ำในอ่างมารดที่จมูกและปากของน้องอ้อมเพื่อให้หายใจไม่ออกและถึงแก่ความตายในที่สุด
หลังจากแน่ใจว่าน้องอ้อมได้สิ้นใจแล้ว นายพันธุ์ได้โผล่หัวออกมาดูภายนอกห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวหลบหนี แต่ได้พบกับเด็กนักเรียนชายซึ่งยืนอยู่ที่ก๊อกน้ำและมองมาทางนายพันธุ์พอดี จึงรีบหลบกลับเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่เห็นเด็กคนนั้นเดินมาที่ห้องน้ำ ด้วยความกลัวว่าเด็กคนนั้นจะเข้ามาเห็นศพของน้องอ้อมและร้องโวยวายขึ้นมา จึงใช้เท้าถีบประตูออกไปอย่างแรงและออกมาทำท่าขู่จะทำร้ายจนเด็กนักเรียนคนนั้นต้องวิ่งหนีไป
หลังจากนั้นจึงเดินเราะรั้วโรงเรียนออกมาทางเดียวกับที่ได้เดินเข้าไปแล้วรีบเดินหนีผ่านลานวัดออกมาจนถึงร้านค้าของคนรู้จักกัน แต่เจ้าของร้านแสดงท่าทางสงสัยเนื่องจากเห็นเสื้อผ้าของนายพันธุ์เปียกน้ำและถามขึ้นมา จึงทำเป็นขอบุหรี่สูบมวนหนึ่งแล้วรีบหลบหนีออกมา โดยตั้งใจว่าจะหลบไปหาเพื่อนเก่าที่บางลำพู แต่ได้แวะนอนพักที่วัดสังเวชก่อน จนกระทั่งมาถูกตำรวจส.น.ชนสงครามจับกุมตัวได้ในข้อหาซ่องโจร
เมื่อนายพันธุ์ได้รับสารภาพออกมาแล้ว วันรุ่งขึ้น(9 กรกฎาคม 2539)เวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายพันธุ์ไปชี้ที่เกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งในวันนั้นมีช่างภาพและนักข่าวรวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าวไปดูการทำแผนกันเป็นจำนวนมาก ในระหว่างที่ทำแผนอยู่นั้น ประชาชนที่โกรธแค้นพยายามที่จะเข้าไปรุมประชาฑัณฑ์นายพันธุ์กันให้ได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ป้องกันเอาไว้ จนกระทั่งการทำแผนได้เสร็จสิ้นอย่างทุลักทุเล
เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกลับมาคุมขังไว้ที่สน.บางพลัด เพื่อสวบสวนเพิ่มเติมและรอผลพิสูจน์ทางการแพทย์ ซึ่งผลพิสูจน์ทางการแพทย์ปรากฏออกมาว่า น้องอ้อมเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ มีร่องรอยถูกข่มขืนและมีเลือดออกรวมทั้งพบเชื้ออสุจิ ตรวจสอบเปรียบเทียบทางพันธุกรรมแล้วปรากฏว่าตรงกันกับของนายพันธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสรุปสำนวนประกอบพยานหลักฐานต่าง ๆ ส่งมอบให้อัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลให้พิจารณาความผิดของนายพันธุ์ต่อไป
ชมคลิปด้านล่าง รออีกสักครู่…
loading...
loading...
ทีมา;http://onlinekhao.blogspot.com/

0 comments:
Post a Comment